กว่าจะตัดสินใจทำศัลยกรรม หลายคนคงหาข้อมูลมาไม่น้อยว่าจะต้องดูแลตัวเองแบบไหน จะเลือกคลินิคและศัลยแพทย์ที่เหมาะกับตัวเองอย่างไร แต่ขั้นตอนการดูแลตัวเองหลังผ่าตัดทำศัลยกรรม ก็เป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กัน โดยเฉพาะการดูแลรักษาแผลเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดแผลเป็น หรือทำอย่างไรให้เกิดแผลเป็นน้อยที่สุด บทความนี้ หมอจะพาไปดูข้อแนะนำสำหรับคนไข้และแพทย์ผู้ทำศัลยกรรมกันครับ
แนวทางการดูแลตัวเองหลังผ่าตัดสำหรับคนไข้
ดูแลและทำความสะอาดแผลอย่างสม่ำเสมอ
การดูแลและทำความสะอาดแผลผ่าตัดอย่างสม่ำเสมอ ถือเป็นขั้นตอนสำคัญในการลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ โดยผู้เข้ารับการผ่าตัดควรทำความสะอาดแผลอย่างน้อยวันละ 3-4 ครั้ง โดยเช็ดทำความสะอาดด้วยน้ำเกลือ นอกจากนี้ ยังควรระมัดระวังไม่ให้แผลถูกน้ำ และล้างมือให้สะอาดก่อนทำแผลทุกครั้ง
ประคบเย็น และประคบร้อนบริเวณแผล เพื่อลดอาการบวม ช้ำ
หลังเข้ารับการผ่าตัด ผู้ป่วยควรดูแลตัวเองด้วยการประคบเย็นบริเวณแผลอย่างน้อย 3 วัน เพื่อช่วยให้หลอดเลือดหดตัวและมีการดูดน้ำกลับเข้าสู่เซลล์มากขึ้น เพื่อช่วยลดอาการบวม ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นการประคบร้อนอีกอย่างน้อย 3 วัน เพื่อช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด และผ่อนคลายกล้ามเนื้อบริเวณที่มีอาการเจ็บปวด ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อได้เร็วขึ้น
ปฏิบัติตามที่แพทย์สั่งสม่ำเสมอ
ผู้เข้าทำศัลยกรรมควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานยาแก้อักเสบให้ตรงตามเวลาและต่อเนื่องตามที่แพทย์สั่ง หรือการนอน-นั่งในท่าที่กำหนด เพื่อป้องกันการเกิดเลือดคั่งบริเวณแผลและลดอาการบวม ตลอดจนการเข้ามาพบแพทย์ตามนัดและมาตัดไหมให้ตรงตามเวลา นอกจากนี้ หากมีอาการผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์ทันที
งดออกกำลังกายและหลีกเลี่ยงสภาพแวดล้อมที่ไม่สะอาด
การออกกำลังกายหลังผ่าตัดทันที อาจทำให้แผลผ่าตัดฉีกขาด และยังทำให้เลือดสูบฉีดจนอาจเกิดเลือดออกบริเวณแผลได้ นอกจากนี้ เหงื่อจากการออกกำลังกายอาจทำให้เกิดการหมักหมมของแบคทีเรีย ตลอดจน การเข้าไปคลุกคลีกับสภาพแวดล้อมที่สกปรก ก็อาจจะทำให้เชื้อโรคเข้าสู่แผล จนนำไปสู่การอักเสบลุกลามได้
งดสูบบุหรี่ งดเหล้า และงดอาหารรสจัด-เผ็ดร้อน
การสูบบุหรี่อาจทำให้เกิดการติดเชื้อของแผลได้ นอกจากนี้ การดื่มแอลกอฮอลล์ และอาหารที่มีรสจัด เช่น เค็มจัด หวานจัด ก็อาจจะทำให้ร่างกายมีการตอบสนองด้วยการดูดซึมน้ำเข้าสู่เซลล์มากขึ้นจนเกิดอาการบวม ส่วนอาหารที่มีรสเผ็ดก็อาจจะทำให้เกิดสารคัดหลั่ง เช่น น้ำมูก ซึ่งอาจจะนำไปสู่การติดเชื้อ และทำให้แผลหายช้าลงได้
ทำทรีตเมนต์ เลเซอร์ หลังแพทย์อนุญาต
บางคนที่ทำศัลยกรรมในจุดที่แผลเป็นเห็นได้ชัด ก็อาจจะเกิดความไม่มั่นใจ จนอยากเข้ารับบริการเลเซอร์ หรือทรีตเมนต์เพื่อลดร่องรอยจากมีดหมอให้เร็วที่สุด หรือบางคนอาจจะหายาลดรอยแผลเป็นมาทาเพื่อดูแลผิว แต่ทางทีดี ควรจะรอให้ศัลยแพทย์ที่เป็นผู้ดูแลอนุญาตก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการแทรกซ้อน เช่น ผู้ที่เข้ารับการทำศัลยกรรมเสริมหน้าออก อาจจะต้องดูแลตัวเองเพิ่มขึ้น ด้วยการนวดคลึงบริเวณรอบ ๆ แผลผ่าตัด เพื่อไม่ให้เกิดพังผืดหรือแผลจากการที่ร่างกายตอบสนองกับสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาใหม่ โดยควรปรึกษาแพทย์ให้ช่วยตัดสินใจด้วยว่า แผลผ่าตัดหายดีและพร้อมรับการนวด หรือทรีตเมนต์ต่าง ๆ แล้วหรือยัง
แนวทางการดูแลแผลผ่าตัดสำหรับศัลยแพทย์
วางแนวแผลผ่าตัดเพื่อซ่อนแผลให้มากที่สุด
การผ่าตัดเสริมความงามในตำแหน่งสำคัญที่มองเห็นได้ชัด เช่น บริเวณหน้าผาก โหนกแก้ม คิ้ว หรือรอบดวงตา แพทย์ควรคำนึงถึงวิธีการวางแนวแผลที่จะช่วยซ่อนแนวแผลผ่าตัด และแนวที่จะลงมีดบนผิวที่ช่วยลดแผลเป็นให้มากที่สุด และหลีกเลี่ยงไม่ให้แผลเป็นอยู่ในจุดที่ดึงดูดสายตา จนทำลายความมั่นใจของผู้ที่เข้ารับบริการ
ดูแลไม่ให้แผลตึงเกินไป
การผ่าตัดที่คำนึงถึงผลลัพธ์จนลืมนึกถึงปัจจัยอื่น ๆ เช่น ความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ และโอกาสในการฟื้นตัวของกล้ามเนื้อโดยรอบ ก็อาจจะทำให้เกิดความเสี่ยงที่ทำให้แผลฉีกขาด หรือตึงเกินไปจนแผลสมานตัวไม่สนิทและเกิดพังผืดรอบ ๆ แผลจนนำไปสู่แผลเป็นได้ แพทย์ควรพิจารณารายละเอียดข้อนี้อย่างรอบคอบ และไม่สร้างความคาดหวังที่เกินจริงให้กับผู้เข้ารับบริการ
เย็บแผลอย่างละเอียดและสม่ำเสมอ
รอยแผลที่มีการเย็บด้วยตะเข็บที่ละเอียดและสม่ำเสมอ จะช่วยให้มีการกระจายน้ำหนักและการดึงรั้งของรอยไหมได้ดีมากขึ้น ทำให้ไม่มีจุดไหนที่ตึงเกินไปและหลวมเกินไป จนเกิดการดึงรั้ง หรือช่องโหว่ที่ทำให้ผิวหนังสมานตัวได้ยากขึ้น
รับชมคลิป
ดูแลแผลผ่าตัดหลังศัลยกรรม ทำยังไงให้เกิดแผลเป็นน้อยที่สุด
ใครอยากปรึกษามีปัญหาคาใจ ทุกคำถาม..เรามีคำตอบ ส่งรูปประเมินส่วนตัวมาได้ ตามลิงก์ด้านล่าง หมอจะประเมินให้เองทุกคน