“ทำจมูก” เขาทำอะไรกันบ้าง สรุปจบฉบับสมบูรณ์ในบทความนี้ ตั้งแต่สิ่งที่ต้องเข้าใจก่อน ความต้องการเสริมจมูกที่โครงสร้างหรือเสริมความหนา วิธีการทำจมูกแบบปิด และแบบเปิด รวมถึงการแก้จมูก วันนี้หมอจะเล่าให้ฟังครับ
หลายๆคน อยากจะทำจมูก โดยเฉพาะคนเอเชียเราที่มักมีจมูกค่อนข้างเล็ก ไม่โด่ง หรือ อาจสั้น ปีกจมูกกาง จมูกชมพู่ เป็นต้น อยากมาหาหมอ หมอทำอะไรให้ได้บ้าง มาดูกันครับ
เข้าใจโครงสร้างกายภาพของจมูก
เบื้องต้นต้องเข้าใจโครงสร้างกายภาพของจมูกก่อน เพื่อความเข้าใจตัวเอง โดยจมูกเราประกอบด้วย
- กระดูกจมูก (nasal bone) เป็นกระดูกแข็งบางๆ คล้ายหลังคาบ้านสองด้านประกบกัน บนแกนจมูกที่เป็นเหมือนกำแพง ที่เป็นส่วนของกระดูกแข็งเหมือนกัน และมีฐานจากกระดูกกรามบนหรือฐานแก้มเราน่ะ ยื่นขึ้นมารับไว้
- ปีกกระดูกอ่อนส่วนบน (upper lateral cartilage) ที่เปกสองข้างยื่นออกไปเป็นหลังคาส่วนที่สอง ต่อลงมาจากกระดูกจมูกวางอยู่บนผนังกั้นจมูกที่เป็นกระดูกอ่อนเช่นกัน คือ nasal septum
- ปีกกระดูกอ่อนส่วนล่าง (lower lateral cartilage) ก็เป็นปีกส่วนล่างสุดที่ประกบกันตรงกลาง ต่อจากปลายกระดูกอ่อนผนังกั้นจมูกนั่นเอง และเป็นส่วน tips และ กรอบรูจมูก เป็นส่วนที่คนจะทำจมูกอยากเปลี่ยนแปลงมัน ให้เรียว ให้ยาวออก และให้โด่งมากที่สุดนั่นเอง
- ผิวหนังที่หุ้ม : โครงสร้างเหล่านี้ก็จะถูกหุ้ม ไว้ด้วยผิวหนังของเรา ซึ่งมีความหนาบางไม่เท่ากัน ถือเป็นโครงสร้างนุ่ม
เสริมโครงสร้าง หรือเสริมความหนา
ทีนี้เมื่อคนจะทำจมูกในคนเอเชีย ก็มักจะหมายถึงเสริม ให้เรียว โด่ง ก็ต้องรู้ก่อนครับว่า อยากเสริมอะไร ถ้าจะเสริมโครงสร้าง ก็จะใช้ วัสดุคือ ซิลิโคน หรือกระดูกอ่อนจากส่วนต่างๆ ของร่างกายหลักๆก็ใบหูและกระดูกอ่อนซี่โครงของเรา นอกจากนี้ อาจมีกระดูกอ่อน จาก bone bank ซึ่งเปนของคนอื่น ที่เขาฉายรังสี และเก็บไว้ (อันนี้ใช้เมื่อจำเป็น ที่ ของตัวเองไม่พอจริงๆ ซึ่งมีโอกาสที่ร่างกายปฏิเสธ อาจเป็นในรูปแบบอักเสบเรื้อรัง หรือฝ่อไป) , กอร์เทก (gortex), nasal plate หรือแกนเทียมที่ทำจากวัสดุทำไหมละลายซึ่งจะละลายไปในที่สุดแต่ต้องใช้เวลา
ถ้าจะเสริม ความหนา ของเนื้อเยื่อหุ้มก็ถึงจะใช้เนื้อเยื่อเทียม, เยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ (จากขมับหรือหน้าท้อง), ไขมันตัวเอง , เนื้อเยื่อก้นกบ ส่วนพวกวัสดุฉีดต่างๆ หมอไม่แนะนำครับ
วิธีผ่าตัด มีสองวิธี คือ แบบปิด (closed technique) กับ แบบเปิด (open technique) ชื่ออื่นๆนอกจากนี้ เป็นคำการตลาดที่สร้างกันขึ้นมาเองภายหลัง แต่ละแบบเราทำอะไรได้บ้างมาดูกันครับ
เสริมจมูกแบบปิด
การเสริมแบบปิด (closed technique) จะเปิดแผลด้านในสองข้าง สิ่งที่แพทย์จะเห็นคือปีกกระดูกอ่อนส่วนปลาย บางส่วนและก็โพรงเลาะขึ้นไปถึงชั้นใต้เยื่อหุ้มกระดูกจมูก เพราะฉะนั้น วัสดุที่ใส่เสริมได้ก็มักเป็นซิลิโคน กระดูกอ่อนใบหู เนื้อเยื่อก้นกบ เนื้อเยื่อเทียม เยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ โดยทำให้เป็นรูปร่างที่ต้องการแล้วเสริมเข้าไป
ส่วนโครงสร้างที่อาจเปลี่ยนแปลงได้ ก็อาจเลาะหรือเย็บให้เรียวขึ้นได้เล็กน้อย intra และ interdome ที่พูดกันซึ่งย้ำว่าเปลี่ยนแปลงได้เพียงส่วนหนึ่งต้องประกอบกับสิ่งที่จะมาเสริมอีกหลายส่วน โดยปลายจมูกไม่ควรให้ตึงเกินไป โดยเฉพาะวัสดุเทียมที่ไม่ใช่เนื้อเยื่อตนเอง เช่น ซิลิโคน จึงมีการรองปลายด้วยกระดูกอ่อนบ้าง เนื้อเยื่อเทียมบ้างเพื่อลดปัญหาจมูกทะลุ
เสริมจมูกแบบเปิด
การเสริมแบบเปิด (open technique) จะมีแผลเชื่อมใต้จมูกกับแผลด้านในสองข้าง ทำให้เปิดผิวหนังขึ้น จะเห็นโครงสร้างด้านใน คือปีกกระดูกอ่อนส่วนล่าง ส่วนบน กระดูกจมูกและผนังกระดูกอ่อนกั้นจมูก ซึ่งแพทย์ อาจมีการตอก กระดูกแข็ง ส่วน hump หรือที่ฐานเพื่อยุบให้แคบเข้า
ปีกกระดูกอ่อนส่วนบน อาจเย็บ ยึดใหม่ ให้ยืดยาวขึ้น หรือมุมแหลมขึ้น แต่มักเป็นส่วนที่ไม่ค่อยมีผลในการเปลี่ยนแปลงเท่าไร และปีกกระดูกอ่อนส่วนล่าง ที่เราต้องการให้ยืด ยาวออก ต้องมีส่วนค้ำต่อจากผนังกั้นจมูก โดยใช้กระดูกอ่อนมาต่อ เช่น บางส่วนของกระดูกอ่อนผนังกั้นจมูกเอง, กระดูกอ่อนใบหู และที่จะแข็งแรงและต่อออกมาได้ยาวสุดคือใช้กระดูกอ่อนซี่โครง
บางรายอาจใช้ plate เทียมที่หมอพูดถึง แต่มีโอกาสปัญหาเรื่องอักเสบทะลุได้ ถ้าจะใช้ก็ควรมีกระดูกอ่อนตัวเองหรือเยื่อหุ้มกล้ามเนื้อต่างๆมาหุ้มอีกชั้นก่อน จากนั้นอาจใช้กระดูกอ่อนที่หลือมาเสริมความโด่ง เช่น กระดูกอ่อนใบหูหรือซี่โครงให้ได้รูป ส่วนสันจมูกเมื่อปรับฐานแล้ว เช่นตอก hump หรือตอกกระดูกเข้า ก็มักจะเสริมด้วยซิลิโคนหรือ อาจใช้เนื้อเยื่อก้นกบ หรือกระดูกอ่อนเอง หรือกระดูกอ่อนมาสับเล็กๆป่นๆห่อด้วยเยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ บางท่านอาจใช้ gortex ซึ่งเป็นวัสดุที่เมื่อใช้แล้วจะติดแน่นรวมไปกับเนื้อเยื่อของเรา ไม่สลายไป ซึ่งดีในลักษณะธรรมชาติ แต่ถ้ามีติดเชื้อจะเอาออกยากหรือลามไปโครงสร้างรอบๆได้ ส่วนวัสดุเทียมอื่นๆนอกจากนี้ไม่แนะนำให้ใช้ครับ
การแก้จมูก
ส่วนในเคสแก้ก็แก้ได้สองแบบคือแบบปิด กับแบบเปิดซึ่งแล้วแต่โจทย์ ถ้าปัญหาแค่โครงสร้างภายในมักจะปัญหาไม่มาก แต่ถ้ามีปัญหากับเนื้อเยื่อหุ้มด้วยจะลำบาก เช่น แผลบุ๋ม หนังหด เคยทะลุเป็นต้น เหล่านี้อาจต้องเสริมด้วย เนื้อเยื่อก้นกบ หรือเยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ เป็นต้น บางรายอาจถึงต้องย้ายเนื้อเยื่ออื่นมาปิด เช่น หน้าผาก แก้มด้านข้าง ขอบหู เป็นต้น
จริงๆแล้วปัญหาจมูกค่อนข้างจะละเอียดอ่อนก็คงค้องดูเป็นรายๆไป แต่หมออยากย้ำในสิ่งที่ทำได้ ใช้กับจมูกได้มากกว่า และเราต้องรู้ว่าเราจะเสริมอะไร โครงสร้างหรือ เนื้อเยื่อหุ้ม ฉะนั้น การฉีดสารเหลวเช่น ฟิลเล่อร์ การร้อยไหม การเสริมความโด่งโดยการใช้เนื้อเยื่อเทียม สิ่งที่ได้คือ เนื้อเยื่อหุ้มส่วนนั้นหนาขึ้น ไม่ใช่โครงสร้างโด่งขึ้น เมื่อเรารู้อย่างนี้จะได้อธิบายตัวเองกับหมอ และคุยกับหมอได้เข้าใจมากขึ้นนะครับ
ส่วนในฝรั่งหรือชาติตะวันตกเขามักมีปัญหาโครงสร้างจมูกโด่งไป งุ้ม hump เบี้ยวเอียงโดยโครงสร้างจึงเป็นการลดขนาด ตอกออก เย็บเปลี่ยนรูป และอาจต้องเสริมโครงสร้างด้วยกระดูกอ่อนจากส่วนต่างๆ มักไม่ใช้วัสดุเทียม หรือซิลิโคน เพราะไม่ใช่การเสริม ก็จะต่างกับเราแต่เขาก็มีปัญหามากมายเช่นกันที่เขาไม่ชอบจมูกตัวเอง สุดท้ายก็จะมาเจอรูปจมูกตรงกลางที่คนทั้งโลกอยากได้ แบบจมูกลูกครึ่งนั่นเองครับ
รับชมคลิป เจาะลึกการทำจมูกฉบับสมบูรณ์ ครบทุกเรื่องเสริมจมูก ควรดูก่อนทำ
ใครอยากปรึกษามีปัญหาคาใจ ทุกคำถาม..เรามีคำตอบ ส่งรูปประเมินส่วนตัวมาได้ ตามลิงก์ด้านล่าง หมอจะประเมินให้เองทุกคน