อยากรู้ไหมว่าทำจมูกทรงไหน ถึงจะเหมาะกับเรา แบบจมูกของผู้ชายและผู้หญิง ความสวยงามต่างกันอย่างไร บทความนี้ผมจะเล่าให้ฟังครับ
ในคนไทยหรือคนเอเชีย ปัญหาของเราคงเป็นการอยากจะเสริมจมูก ทั้งนั้นเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ มีข้อมูล ข้อความโฆษณา มากมาย คำประดิษฐ์ ทั้งหลาย มาบอก ทรงไหนดี คำตอบ ทรงคุณน่ะแหละ !!!!
แต่โดยหลักการทั่วไป ต้องมี curve นะไล่จากหน้าผากมาเนียนๆ ต่อมาถึงปลายที่เด่นพุ่งขึ้นแบบธรรมชาติ คงได้ยินโฆษณา slope ปลายพุ่ง (feminine looking) ทั้งหลายซึ่งมันเป็นสิ่งที่ต้องทำอยู่แล้วครับ แต่ถ้าเป็นผู้ชายก็อาจตรงและมุมแหลมกว่า (masculine)
เข้าใจโครงสร้างของจมูก
การจะเสริมจมูกต้องเข้าใจโครงสร้างจมูกก่อน รวมถึงดูว่าหมอที่คุณทำเข้าใจเรื่องโครงสร้างจมูกหรือไม่?
จมูกเป็นอวัยวะที่อยู่ตรงกลางใบหน้าเป็นอวัยวะที่ควรจะเป็นแบบ “ผิวหนังที่ค่อนข้างบางหุ้มส่วนแข็งของร่างกายที่รูปร่างสวยงาม” ในที่นี้คือกระดูกแข็ง และส่วนกระดูกอ่อน โดยกระดูกแข็งจะอยู่ส่วนบนต่อลงมาจากกระดูกหน้าผาก ลงมาสัก 1/3 – ½ ของความยาวจมูก (ปกติจมูกเราจะยาวประมาณ 5-6 cm) แล้วก็เป็นกระดูกอ่อนรูปปีกนกซ้ายขวามาประกอบกันมีสองส่วน ส่วนบน(ตรงกลางจมูก) และตรงปลาย (ส่วนปลายหรือส่วนล่าง)
การเสริมจมูกนั้นควรจะเสริมส่วนที่เป็นโครงสร้างให้เด่น สวยขึ้น ไม่ใช่การเสริมเนื้อหุ้มให้หนาขึ้น เช่น การฉีด filler ไขมัน ซึ่งจะส่งผลให้มันเป็นเนื้อหนาหรือเป็นลำขึ้น หุ้มโครงสร้างที่แบนเท่าเดิม ซึ่งไม่ใช่การเสริมจมูกที่แท้จริง
ปัญหาจมูกคนไทย เตี้ยและแบน
ในคนไทยมีปัญหาว่ามันอาจจะเตี้ยและแบน จึงอยากเสริมให้สูงขึ้น ตรงปลายก็อยากจะยาวและพุ่งขึ้น ทั้งนี้ทั้งนั้น ผิวหนังส่วนนุ่ม (soft tissue) เราต้องรับได้โดยไม่ตึงเกินไป ซึ่งจะเกิดปัญหาบาง ทะลุ ติดเชื้อได้ สิ่งที่มาเสริมก็จะมี วัสดุอื่น (implant) ที่ใช้กันมากสุดก็คือ silicone (dimethyl siloxane) ซึ่งเป็นสารที่เฉื่อย (inert) หรือปฏิกิริยาน้อยสุดกับร่างกาย ถึงเอามาทำ implant ในส่วนต่างๆของร่างกาย ไม่ว่าจมูก หน้าผาก โหนกแก้ม คาง หน้าอก ก้น น่อง ทั้งหลายเป็นรูปแบบต่างๆ ส่วนอื่นๆมักใช้เป็นรูปแบบสำเร็จรูป
เสริมจมูกจากของสำเร็จรูป vs. Tailor Made
แต่! ของจมูก ผมว่าของสำเร็จรูปที่มีในตลาดยังไม่ถูกใจผม มันไม่เข้ากับ โครงสร้างธรรมชาติร่างกาย โดยเฉพาะส่วนปลายมักจะทำกันมาแหลมเล็กไม่คลุมกระดูกอ่อนส่วนปลาย เหมือนเอา หินก้อนเล็กไปวางไว้ไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ถ้าเป็นคนไข้ผมจะใช้เป็น tailor made คือเหลาวัดให้เข้ากับโครงคนนั้นเฉพาะคน จึงบอกว่าแต่ละคนทรงไม่เหมือนกันเลย และต้องครอบแนบกับกระดูกแข็งกระดูกอ่อนทุกส่วนมันถึงจะเป็นเนื้อเดียวกันไม่ลอยเป็นแท่ง และการทำให้มันครอบเนี่ยเป็นหัตถการที่ยากมาก สอนกันไม่ได้แฮะ กว่าผมจะหาวิธีมือตัวเองทำได้ตามใจใช้เวลาฝึกและหาทางอยู่นานตั้งแต่สมัยเรียน ใครไม่ถนัดทำก็จะไปใช้แบบสำเร็จรูป ซึ่งมักไปดันปลายกันด้วยความแหลม ขาตั้งบ้างไรบ้าง สุดท้ายล้มหรือดันออกข้าง รัด หรือทะลุ
จะเห็นว่าปัญหาใหญ่ก็ตรงปลายนี่แหละครับ มีวัสดุอื่นมาช่วย เช่น เนื้อเยื่อเที่ยม หรือกระดูกอ่อนตัวเองจากใบหูบ้าง ซี่โครงบ้างเพื่อลด แรงตึงจากวัสดุเทียม ก็สามารถใช้ได้ครับให้เหมาะกับทรงแต่ละคน
ส่วนความนิ่มของ silicone ล่ะ ยิ่งนิ่มยิ่งดีมาบิดอวดกัน!!!! เรื่องนี้ไม่จริงนะ มันมี scale 1-10 durameter ยิ่งเลขน้อยแปลว่านิ่ม อย่าลืมว่า เวลาเสริมแล้วร่างกายจะสร้างกล่องพังผืดมาหุ้มรอบ ถ้านิ่มไป มันก็เบี้ยวโค้งไปตามแรง ปกติเราใช้ scale นิ่มประมาณ 4-5 หรืออย่างมากก็ 3 กว่าๆ บางแบบมี double contour ในอันเดียว เช่นด้านบน 4-5 ตรงปลาย -3 งี้เป็นต้นซึ่งหมอเองก็ใช้บ่อยนะได้ประโยชน์ในลักษณะ เนื้อหลายราย
นอกจากวัสดุเทียม ก็มีการใช้เนื่อเยื่อตนเอง เข้ามาเสริม เช่นกระดูกอ่อน ซึ่งมักนำมาจากใบหูหรือซี่โครงด้านใน หรือถ้าเป็นเนื้อเยื่อนุ่มก็อาจใช้ เนื้อเยื่อใต้ผิวหนังบริเวณก้นกบ มาช่วย ซึ่งจะต้องมีแผลผ่าตัดเพิ่มเติมในส่วนนั้นๆ
เหล่านี้โดยหลักแล้วด้านบนจนปลายเกือบสุด silicone ก็เป็นวัสดุที่เหมาะสมในการใช้ แต่ต้องมีรูปร่างที่เหมาะสมกับคนคนนั้นยกเว้นบางคนถ้าทำแบบ open แล้วไม่อยากมีสิ่งแปลกปลอมในร่างกาย เราใช้กระดูกอ่อนจากซี่โครง ทำเปนชิ้นเล็กๆละเอียดห่อหุ้มด้วยเนื้อเยื่อ fascia ของร่างกายเป็นถุงยาวๆแล้ววางแทนได้ ส่วนปลายสุด ถ้าจะเน้นหรือเปลี่ยนค่อนข้างมากอาจใช้อย่างอื่นเพิ่มเติมเช่น กระดูกอ่อนหรือเนื้อเยื่อเทียม มาประกอบ โดยเฉพาะคนที่หนังบาง หรือเคยทำมาแล้วมีปัญหา เคย ทะลุ ติดเชื้อ หรืออื่นๆ
นอกจากนี้ในบางคน ถ้ามีโครงสร้างที่มีปัญหาร่วมด้วย เช่น มี hump ซึ่งคนเอเชียมักมีแต่ไม่มาก ใช้การตะไบก็อาจจะพอเพียง เพื่อให้เรียบก่อนวาง Implant ยกเว้นบางคนต้องตอกออกเลย หรือในรายที่มีกระดูก ฐานกว้าง หรือเอียง ก็ต้องผ่าตัดแก้ไขร่วมด้วย ซึ่งมักต้องเป็นผ่าตัดใหญ่แบบเปิดหรือ open และต้องดมยาสลบ
บทความนี้เรามาพูดถึงวัสดุที่เราจะใช้กันก่อน รวมถึงทรงจมูกแต่ละคน ส่วนเทคนิคที่ใช้ก็มีรายละเอียดอีก เยอะแยะ แบบปิด แบบ เปิด คืออะไร ทำไปทำไม ทำไมต้องทำ ติดตามกันในบทความต่อๆไปนะครับ ส่วนใครอยากถามว่าของ ผม ของหนู ของดิฉัน ทำแบบไหนดีคะ ถามมาครับ ส่งรูปประเมินส่วนตัวมาได้ ตามลิงค์ด้านล่าง หมอจะประเมินให้เองทุกคน
ผมจะเอาความรู้ บวกประสบการณ์ แบบเกิน 15–20 ปีที่อยู่กับวงการนี้มาเล่าให้ฟังเรื่อยๆครับ ใครเพิ่งเข้ามา อยากรู้จักว่าผมเป็นใครก็ไปอ่านบทความก่อนนี้ได้นะครับ “กว่าจะมาเป็นศัลยแพทย์ตกแต่ง”