063-594-1656, 063-562-6164

ใบหน้าที่สมส่วนและคางยาวที่ได้รูปสวย รับกับส่วนอื่นของใบหน้า เป็นนิยามความงามที่หลาย ๆ คนในสมัยนี้นิยมกันครับ โดยเฉพาะใบหน้าวีเชฟ V-Shape ที่สาว ๆ คางแหลม ใบหน้าดูหวานละมุน และหนุ่ม ๆ ที่มีคางมุมป้าน และใบหน้าดูแมน มีมิติ การเสริมคางจึงเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่มักถูกหยิบยกมาพิจารณา เพื่อสร้างสรรค์ใบหน้าตามปรารถนากันอยู่เสมอ วันนี้หมอจะพามาเจาะลึกเรื่องเสริมคางกันครับ

เสริมคางเหมาะกับใคร

ศัลยกรรมเสริมคางเหมาะกับใคร ?

การทำศัลยกรรมเสริมคางเหมาะกับทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ที่มีปัญหาคางสั้นหรือคางถอย หลุบเข้าไปด้านหลังโครงหน้า โดยจะเป็นลักษณะที่เห็นชัดเวลาหันข้าง นอกจากนี้ ยังเหมาะกับคนที่มีคางบุ๋มหรือคางเหลี่ยม ทำให้หน้าดูกลม หรือเต็มแน่นไปหมดจนดูไม่สมส่วน

คางบุ๋มหรือคางเหลี่ยม

ในบางกรณี คนที่มีปัญหาคางสั้นอาจจะมีปัญหาฟันไม่สบกันร่วมด้วยครับ ซึ่งสามารถแก้ไขเบื้องต้นได้ด้วยการจัดฟัน การจัดฟันอาจช่วยเปลี่ยนรูปหน้าได้บ้าง แต่ไม่ใช่การแก้ปัญหาคางสั้นอย่างถาวรนะครับ ต้องผ่าตัดเท่านั้น

เทคนิคการทำศัลยกรรมเสริมคางให้ดูเป็นธรรมชาติ

ศัลยกรรมเสริมคางจะออกมาสวยหล่อตามที่คิดไหม ก็ต้องดูจากรูปหน้าของคนไข้เป็นหลักครับ โดยในการวางซิลิโคนให้เหมาะกับใบหน้าของแต่ละคนอาจจะใช้วิธีที่ไม่เหมือนกัน โดยคุณหมอขอแนะนำเทคนิคทำศัลยกรรมเสริมคางให้ดูเป็นธรรมชาติดังนี้

เลือกขนาดและรูปแบบของซิลิโคนให้ถูกต้องเหมาะกับใบหน้า

  • เลือกขนาดและรูปแบบของซิลิโคนให้ถูกต้องเหมาะกับใบหน้า และควรเหลาปลายยอดให้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น (หลายที่อาจจะไม่เหลา แต่เราเหลาครับ)
  • ลักษณะของการวางซิลิโคนต้องพิจารณาจากโครงหน้า เช่น จะวางแนวยาว ให้ไม่เลื่อน ไม่เบี้ยวอย่างไร
  • การเลือกตำแหน่งแผลผ่าตัด ว่าจะเป็นแผลภายในหรือแผลภายนอก อาจจะให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน
  • สำหรับคนไข้บางคน อาจจะไม่ต้องเสริมเยอะ สามารถเลือกใช้การฉีดไขมันแทนได้ ไม่ต้องผ่าตัดใช้ซิลิโคน
  • แต่สำหรับคนไข้บางคน อาจจะต้องใช้วิธีทั้งเสริม + ฉีดไขมัน เป็นวิธีไฮบริดก็ได้ โดยเฉพาะคนที่เนื้อคางขาดเยอะ และมีร่องรอย

การทำศัลยกรรมเสริมคางมีกี่วิธี

หลังจากที่ได้เกริ่นไปแล้วเกี่ยวกับเทคนิคการทำศัลยกรรมเสริมคางให้เป็นธรรมชาติ ว่าสามารถทำได้ทั้งการผ่าตัดเสริมซิลิโคนและการเติมไขมัน เรามาลงรายละเอียดกันว่า การเสริมคางสามารถทำได้กี่วิธีและมีรายละเอียดอย่างไรบ้างครับ

วิธีที่ 1 การเสริมคางด้วยการฉีดไขมันหรือฟิลเลอร์

การเสริมคางด้วยการฉีดไขมันหรือฟิลเลอร์

เป็นวิธีที่ไม่ต้องใช้การผ่าตัด โดยจะใช้ไขมันจากร่างกายของผู้ที่เข้าทำศัลยกรรมเองก็ได้ หรือฉีดด้วยฟิลเลอร์ก็ได้ เป็นการทำศัลยกรรมคางแบบที่ไม่มีผลคงทนถาวร โดยฟิลเลอร์จะสลายไปภายใน 1-3 ปี

ส่วนไขมันการฉีดก็ต้องฉีดแบบไขมันระดับไมโคร และละเอียดหลายชั้นของเนื้อเยื่อ แม้ว่าจะไม่อยู่ 100% แต่ส่วนที่อยู่แล้วก็จะอยู่เลย และเราจะไม่ฉีดเผื่อยุบนะครับต้องฉีดพอดี ผลที่ได้ ขึ้นอยู่กับผลการรักษาของแต่ละบุคคล แต่ก็มีข้อดีคือ สามารถฉีดเพิ่ม ฉีดเติม และฉีดซ้ำได้เรื่อย ๆ

วิธีที่ 2 การผ่าตัดเสริมคางด้วยซิลิโคน

การผ่าตัดเสริมคางด้วยซิลิโคน

เป็นการผ่าตัดเล็กที่มีผลถาวร โดยคุณหมอจะใส่ชิ้นส่วนซิลิโคนเข้าไปบริเวณคางของคนไข้ เพื่อปรับรูปทรงใบหน้าตามความเหมาะสม โดยสามารถทำการผ่าตัดได้ 2 วิธีคือ

2.1 การเสริมคางแผลนอก

เสริมคางแผลนอก

การเสริมคางด้วยการผ่าตัดที่มีแผลภายนอก แพทย์จะต้องฉีดยาชาและทำการกรีดแผลใต้คางขนาดประมาณ 1-1.5 เซนติเมตร และสร้างพื้นที่บริเวณเนื้อเยื่อตรงคางในระดับใต้เยื่อหุ้มกระดูก เพื่อสอดซิลิโคนเข้าไปในตำแหน่งบนกระดูกที่ต้องการ เพื่อปรับให้ใบหน้าดูเรียวยาวขึ้น โดยจะใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 30-45 นาที

การเสริมคางด้วยการผ่าตัดที่มีแผลภายนอก

ข้อพิจารณาเกี่ยวกับการเสริมคางแผลนอก

  • มีแผลขนาดเล็ก ดูแลง่าย หายเร็ว
  • สามารถกำหนดตำแหน่งซิลิโคนได้ง่าย แม่นยำ ไม่เบี้ยว ไม่เอียง
  • หลีกเลี่ยงความเสี่ยงติดเชื้อจากเศษอาหารและน้ำลายในช่องปาก เมื่อเทียบกับการผ่าตัดแผลใน
  • สามารถทำการผ่าตัดเพิ่มเติม เพื่อเก็บเหนียงใต้คาง คางห้อยได้
  • ไม่เหมาะกับคนที่เกิดแผลเป็นได้ง่าย อาจจะต้องดูแลรักษาแผลเป็นอย่างดี ทาครีมสม่ำเสมอ จนกว่าแผลเป็นจะหายภายในเวลา 1-3 เดือน

2.2 การเสริมคางแผลใน

การเสริมคางแผลใน แพทย์ก็ต้องใช้ยาชาเช่นกัน แต่จะเป็นการผ่าตัดให้เกิดแผลจากบริเวณเหงือกด้านในและริมฝีปากล่าง เพื่อสอดซิลิโคนเข้าไปในคาง ขนาดแผลจะขึ้นอยู่กับขนาดซิลิโคน และใช้ไหมละลายในการเย็บปิดแผลครับ

การเสริมคางแผลใน

ข้อพิจารณาเกี่ยวกับการเสริมคางแผลใน

  • การเสริมคางแผลใน มักทำร่วมกับการรักษาที่ต้องประเมินกระดูกขากรรไกรและการสบฟันร่วมด้วย
  • เนื่องจากเป็นการผ่าตัดมีแผลภายในปาก ผู้ที่เข้ารับการผ่าตัดต้องรักษาความสะอาดมากเป็นพิเศษ ไม่ให้มีเศษอาหารตกค้าง เพื่อระวังภาวะติดเชื้อแทรกซ้อน
  • ในระหว่างรักษา ต้องระมัดระวังไม่ให้คางกระแทกจนซิลิโคนเคลื่อนผิดตำแหน่งได้
  • ไม่มีแผลเป็นภายนอก เหมาะกับคนที่เป็นแผลนูนง่าย

การเตรียมตัวก่อนการทำศัลยกรรมเสริมคาง

การผ่าตัดทำศัลยกรรมเสริมคาง มีแผลเป็นขนาดเล็กนิดเดียว และใช้เวลาการผ่าตัดน้อยกว่า 1 ชั่วโมง ทำให้ไม่ต้องใช้เวลาในการพักรักษามาก คนไข้อาจจะไม่ต้องลางานเพื่อรักษาตัว ทำให้มีความยืดหยุ่นในเรื่องเวลาของการเข้ารับการรักษาได้ แต่เช่นเดียวกับการทำศัลยกรรมความสวยความงามทุกรูปแบบ ผู้ที่เข้ารับการรักษาควรศึกษาคลินิคที่สนใจและผลงานที่ผ่านมา ตลอดจนหาข้อมูลอื่น ๆ เกี่ยวกับบริการหลังการผ่าตัดและการให้คำปรึกษา

นอกจากนี้ ยังมีการเตรียมตัวอื่น ๆ ที่ควรทำ เช่น

  • หยุดรับประทานอาหารเสริมและวิตามินต่าง ๆ ประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด เพื่อลดอาการเลือดไหลไม่หยุด อาการปวด บวม ช้ำ มากกว่าปกติ
  • งดรับประทานยาในกลุ่ม NSAID เช่น แอสไพริน และยาคลายกล้ามเนื้อ ที่อาจทำให้เลือดหยุดไหลยาก
  • ผู้ที่มีโรคประจำตัว แพ้ยา ตั้งครรภ์ หรืออยู่ระหว่างให้นมบุตร ควรแจ้งแพทย์ทุกครั้ง
  • ผู้ที่เคยเข้ารับการผ่าตัด หรือมีการฉีดสารหรือวิตามินเข้าร่างกาย ควรแจ้งแพทย์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด
  • งดสูบบุหรี่ และงดดื่มแอลกอฮอล์ก่อนเข้ารับการผ่าตัดประมาณ 1 สัปดาห์ ก่อนและหลังรักษา
  • เน้นทานอาหารที่มีประโยชน์ และงดทานอาหารดิบ ดอง ของแสลงที่เสี่ยงทำให้เกิดอาการบวม ติดเชื้อ และแผลเป็น
  • ล้างหน้าแปรงฟันให้สะอาด และบ้วนน้ำยาฆ่าเชื้อก่อนเข้ารับการผ่าตัด
  • เตรียมผ้าขนหนูหรือเจลประคบเย็น เพื่อดูแลแผลหลังผ่าตัด

วิธีการดูแลตัวเองหลังการทำศัลยกรรมเสริมคาง

  • หลังจากผ่าตัดทำศัลยกรรมเสริมคางเสร็จแล้ว แพทย์จะให้คนไข้นั่งพักประมาณ 1 ชั่วโมง เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยของผลงาน ก่อนการเย็บปิดแผล และทำแผลก่อนกลับบ้าน
  • ในช่วง 2-3 วันแรก ควรประคบแผลด้วยความเย็น เช่น ใช้เจลเย็น หรือน้ำแข็ง เพื่อลดอาการบวม
  • ในช่วง 1 สัปดาห์แรกหลังการผ่าตัดควรนั่งและนอนยกหัวสูงสม่ำเสมอ เพื่อลดการคั่งค้างของเลือด
  • หลังการผ่าตัดประมาณ 1-2 สัปดาห์ อาจ เปลี่ยนมาเป็นการประคบน้ำอุ่น เพื่อลดรอยฟกช้ำ
  • ในช่วง 1 เดือนแรก ควรระมัดระวังการกระทบกระเทือนที่คาง เช่น การนั่งท้าวคาง การเคี้ยวอาการ การหัวเราะรุนแรง หรือการกระแทกที่อาจทำให้ซิลิโคนเคลื่อน ถ้าเป็นไปได้ควรรับประทานอาหารอ่อนที่ไม่ต้องเคี้ยวมาก
  • ช่วง 1-3 เดือนแรกจะเริ่มเห็นทรงคางใหม่ได้ชัดเจน แต่ก็ยังต้องระมัดระวังการกระทบกระเทือนบริเวณคางอยู่ จนกว่าจะมั่นใจว่าซิลิโคนเกาะกับเนื้อเยื่อบริเวณคาง และแผลหายเรียบร้อย
  • ทำความสะอาดช่องปากด้วยการบ้วนปากด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อหรือน้ำเกลืออย่างสม่ำเสมอ แปรงฟัน และระมัดระวังไม่ให้มีเศษอาหารตกค้าง เวลาแปรงฟันควรระมัดระวังไม่ได้กระทบแผลผ่าตัด
  • หากมีอาการแทรกซ้อนหรืออาการผิดปกติ แจ้งแพทย์ทันที

การเสริมคางน่ากลัว หรืออันตรายไหม?

การเสริมคางน่ากลัว หรืออันตรายไหม

ถ้าจะให้ตอบอย่างตรงไปตรงมาคือ การผ่าตัดทำศัลยกรรมคาง เป็นการผ่าตัดที่มีแผลเป็นขนาดเล็ก ทั้งยังใช้เวลาผ่าตัดและการพักฟื้นในระยะสั้นเท่านั้น จึงไม่ใช้ศัลยกรรมที่น่ากลัวหรืออันตรายมากแต่อย่างใดครับ ทั้งนี้ผลลัพธ์และผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการผ่าตัด ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาตัวหลังผ่าตัด การผ่าตัดเสริมคางด้วยซิลิโคนจะมีผลถาวร และสามารถเพิ่มมิติให้กับหน้าให้สวยงามได้สัดส่วนได้ตลอดชีวิต แต่ถ้ามีปัญหาหรือเกิดไม่ชอบทรงจริงๆก็สามารถถอดออกได้เลยด้วยการฉีดยาชาเช่นกัน ซึ่งปลอดภัยกว่าการฉีดสารแปลกปลอมอื่นๆที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ได้มาตรฐานเช่นศิลิโคนเหลว ฟิลเล่อรที่บ่งบอกว่ากึ่งถาวรหรือถาวร

ดังนั้นผู้ที่เข้ารับการรักษาควรจะศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติม เลือกแพทย์ที่ได้มาตรฐานเป็นศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง เลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานปลอดภัย  และปฏิบัติตามเงื่อนไขการดูแลตัวเองได้ เพื่อให้ได้ผลการรักษาตามที่คาดหวัง และรักษาความสวยให้อยู่ได้นาน

ใครอยากปรึกษามีปัญหาคาใจ ทุกคำถาม..เรามีคำตอบ ส่งรูปประเมินส่วนตัวมาได้ ตามลิงก์ด้านล่าง หมอจะประเมินให้เองทุกคน

ดูคลิป เสริมคางหน้าวีเชฟ อันตรายไหม และวิธีไหนเหมาะกับใคร